แด๊ดดี้ของน้องบิน chapter 14
CHAPTER 14
บ๊อบบี้ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเมื่อคืนเขาเผลอหลับไปเวลาไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เเสงพระอาทิตย์เเยงตาจนทนหลับต่อไม่ไหวต้องลืมตาตื่นในที่สุด ชายหนุ่มมองไปรอบตัวก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างอึ้งๆเมื่อครั้งนี้สิ่งที่เขาคาดการณ์นั้นพลาดไปเสียหมด ลูกชายที่น่ารักกลับปิดบ้านเงียบแทนที่จะลงมาปลุกเขากลางดึกเพื่อให้ขึ้นไปนอนบนห้องอย่างเช่นในละครหลังข่าวสุดโรแมนติก
ชายหนุ่มใช้มิ้วหัวเเม่มือเเละนิ้วชี้นวดที่ข้างสันจมูกโด่งของตัวเองเบาๆก่อนที่จะต้องชะงักเมื่อพบว่ามีหยดย้ำเม็ดหนึ่งหยดลงบนเเขน เเละเมื่อบ๊อบบี้เงยใบหน้าขึ้นมองด้านบนก็พบว่าท้องฟ้ามืดครึ้มเเละฝนห่าใหญ่น่าจะตกในอีกไม่นาน
ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรต่อฝนเม็ดเล็กๆก็โปรยลงมาจากท้องฟ้า ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปยืนหลบบริเวณกันสาดบ้านอยู่เช่นนั้นเมื่อภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวมากขึ้น
ห้านาทีเเรกผ่านไปจากฝนเม็กเล็กกลับใหญ่ขึ้นรวมถึงเเรงลมของทะเลที่ถาโถมเข้ามาทำให้ในที่สุดชายหนุ่มก็เปียกปอนไปทั้งตัว บ๊อบบี้ถอนหายใจออกมาก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นถึงร่างกายอันสมส่วนสุดเพอร์เฟคที่เปียกโชกไปด้วยหยาดฝนเพิ่มความเซ็กซี่ไปอีกเท่าตัว
เเต่ว่าเวลานี้ความหนาวกำลังกัดกินเขาจนแทบสั่น ชายหนุ่มยกสองมือขึ้นกอดอกพลางทิ้งสะโพกพิงกับกำเเพงเเล้วใช้สายตาคมมองไปยังทะเลที่เวลานี้คลื่นกำลังโหมกระหน่ำอย่างน่ากลัว ในใจคิดถึงใครบางคนซึ่งไม่รู้ตอนนี้จะเห็นใจเขาหรือยัง เเต่เเล้วเสียงเลื่อนประตูกระจกก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างบางๆของคนที่เขานึกถึงอยู่มาหันใบหน้าหน้าเล็กมามองเขา
บินก้าวออกมาจากบ้านด้วยเท้าเปล่า เสื้อยืดสีครีมแสนธรรมดาที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่กำลังเริ่มเปียกฝน ขาเรียวก้าวเข้ามายืนตรงหน้าผู้เป็นแด๊ดดี้ของตัวเองก่อนที่จะเชยตามองอีกฝ่าย เด็กหนุ่มยืนอยู่เช่นนั้นสักพักก่อนที่เขาจะเขย่งปลายเท้าเพื่อให้สูงเท่าโดยที่สองมือยกขึ้นเกาะไหล่กว้างเอาไว้เป็นหลัก
“หนาวไหมฮะ”
“หนาวสิ”คนตัวเล็กเม้มปากเเน่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่เเขนเล็กจะค่อยๆโอบกอดไหล่กว้างนั้นเอาไว้ ใบหน้าขาวเอียงแนบลงเข้าหาซอกคอคนเป็นแด๊ดดี้โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะเปียกเลยเเม้เเต่น้อย ยิ่งสัมผัสความเย็นบนผิิวหนังอีกฝ่ายบินยิ่งกอดกระชับมากยิ่งขึ้น
บ๊อบบี้เองก็ใช้เเขนเข้างหนึ่งโอบเอวอีกฝ่ายเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ยกขึ้นมาลูบผมสีเข้มที่บัดนี้เปียกโชกด้วยเเรงสาดจากเม็ดฝน
“อุ่นขึ้นไหมฮะ”
“กอดแด๊ดตัวบินเปียกหมดเเล้วนะครับ”
“ถ้าแด๊ดตากฝนบินก็จะเป็นเสื้อกันฝนให้แด๊ด”
“....”
“ถ้าแด๊ดตากแดดบินจะเป็นที่ร่มให้แด๊ด”
“....”
“ถ้าแด๊ดหนาวบินก็จะเป็นนผ้าห่มให้แด๊ด”
บ๊อบบี้เอียงใบหน้ามองลุกชายที่ยิ้มบางแล้วมองมาทางเขาตาแป๋วตามด้วยการที่ชายหนุ่มสัมผัสได้ว่านิ้วเล็กหนึ่งนิ้วกำลังวนอยู่ที่สะบักหลังของเขาเป็นวงกลมอย่างเพลิดเพลิน
“ขอบคุณนะครับ”
เสียงฝนที่กำลังกระทบสิ่งต่างๆรอบข้างไม่ได้เป็นอุปสรรคในการได้ยินของพวกเขาทั้งสองคนมากนักเมื่อทั้งคู่ผลัดกันกระซิบชิดใบหูอีกฝ่ายชวนให้ความรู้สึกดียามที่ลมหายใจกระทบผิวกายซึ่งกันเเละกัน
“บินมองแด๊ดอยู่ตลอดทั้งคืนเลยนะฮะรู้ไหม”พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปประทับจูบเบาๆเเล้วละใบหน้าออกมาแนบแก้มลงกับไหล่อีกฝ่ายเช่นเดิม
“แล้วทำไมไม่ลงมาเปิดประตูครับ”เด็กน้อยหลับตารับจูบของแด๊ดดี้ที่ดูดริมฝีปากล่างเขาเบาๆแล้วถอนออกอย่างอ้อยอิ่ง
“อยากลงโทษฮะ”หลับตาอีกรอบเมื่อคนแก่กว่าใช้ฟันงับที่ริมฝีปากล่างของเด็กน้อยเเล้วยืดออกเบาๆราวกับต้องการทำโทษ
“ร้ายแล้วเหรอหืม”บีอบบี้ยิ้มมุมปากพร้อมกับใช้มือปาดหยาดน้ำฝนบนใบหน้าขาว
“จะร้ายแล้วฮะ”
“หึ”
“หลงแค่บินนะฮะ”
“แล้วถ้าแด๊ดอยากได้ภรรยาล่ะครับ”
“หืม”
“เมียน่ะ”บ๊อบบี้ยิ้มก่อนจะเลียมริมฝีปากตัวเองเเล้วยักคิ้วให้คนเด็กกว่าที่มองมาตาใสก่อนที่จะก้มหน้าลงแล้วมุดกับซอกคอบ๊อบบี้
“บินก็จะเป็นให้...”
“....”
“เป็นเมียที่น่ารักของแด๊ดเองฮะ”
#
“คุยมือถือกับใครน่ะ” เด็กตัวขาวที่กำลังนอนคว่ำบนเตียงกว้างเอาคางวางบนหมอนสีข้าวพร้อมกับขยับปลายเท้านิดๆตามจังหวะเพลงในเครื่องมือสื่อสารที่ถูกเปิดหันมามองผู้ชายรูปร่างสุดเพอร์เฟคที่เดินเช็ดผมเปียกออกมาจากห้องน้ำ บินนอนหงายก่อนจะยืดเเขนขึ้นสุดบิดขี้เกียจจนชายเสื้อยืดสีขาวเลิกขึ้นไปเผยให้เห็นหน้าท้องเรียบเนียนจนคนมองที่ยืนอยู่นิ่งไป
“คลีนน่ะฮะแด๊ด บินแชทไปอวดว่าแด๊ดพามาเที่ยวด้วย”
“เหรอ แล้วเพื่อนตอบกลับมาว่าไงล่ะ”เด็กตัวขาวยู่ใบหน้าก่อนจะชันขาขึ้นมาทั้งสองข้าง ขากางเกงที่กว้างเเละร่นนขึ้นทำให้บ๊อบบี้นั้นหายใจสะดุดอย่างลืมตัวเมื่อสิ่งยั่วยวนใจเขาน่ะจะเห็นไม่เห็นแหล่ ไหนจะขาเนียนๆน่าเลียไล่ตั้งเเต่ข้อเท้าขึ้นมานั่นอีก
“คลีนบอกให้ซื้อของฝากไปให้ฮะ”
อ่า...หัวเตียงมีสมุดสวดมนต์ใช่ไหมนะ...
บ๊อบบี้นั่งที่เก้าอี้หน้ากระจกพร้อมกับหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมาจัดการเปาให้ตัวเอง เสียงของมันทำให้คนที่นอนฟังเสียงฝนอยู่ลุกขึ้นนั่งเเล้วเอียงคอมองคนที่กำลังเลิกคิ้วเป็นเชิงถามมายังเขาอยู่
บินลุกขึ้นเเล้วเดินมายังผู้ชายที่เขารู้สึกดีด้วยก่อนจะยืนพิงสะโพกกับผนัง บ๊อบบี้เห็นดังนนั้นจึงใช้มือโอบเอวให้อีกฝ่ายมานั่งตักตัวเอง ซึ่งบินก็ทิ้งตัวพิงหลังลงกับไหล่กว้างนั้นเเล้วหลับตาลง เด็กน้อยเพิ่งรู้ว่าตัวเองน่ะชอบฝนมากเเค่ไหน มันทำให้เขาจิตใจสงบลงจากการที่เอาเเต่คิดเรื่องผู้ชายที่กำลังก้มลงขบผิวเนื้อบริเวณไหล่เขาเบาๆอยู่ คนตัวขาวรู้สึกได้ว่าน้ำจากกลุ่มผมที่เปียกชื้นของอีกฝ่ายหยดลงบนไหล่ตัวเอง จึงลืมตาขึ้นเเล้วมองสบตากับคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเป่าผมต่อ
“ถ้าคุณย่ารู้จะดุพวกเราไหมฮะ”
“หืม ดุเรื่อง?”
“ก็เรื่องที่เราสองคน...กอดกันฮะ”
บ๊อบบี้ไม่ได้ตอบคำถามที่เด็กในอ้อมอกเขาพูดในทันที ในหัวกำลังประมวลถึงผลลัพธ์ต่างๆของการกระทำที่จะตามมาหลังจากนี้ซึ่งเเน่นอนว่ามันอยู่ในเชิงลบมากกว่าจะเป็นไปในทางที่ดีเเน่นอนอยู่เเล้ว
มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิดกับการที่ชายหนุ่มอย่างเขาจะนอนกับเด็กผู้ชายสักคน เเต่ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ถ้าหากคนนั้นคือ บิน ลูกชายบุญธรรมที่ตอนนี้คนในสังคมเริ่มรู้ข่าวเเละให้ความสนใจกับเด็กคนนี้ที่ตกถังข้าวสารมาอยู่กับเขาุราวกับฝัน
ผมที่เริ่มเเห้งทำให้บ๊อบบี้วางตัวช่วยในมือลงเเล้วกอดเอวเล็กนั้นด้วยมือทั้งสองข้างแทนก่อนที่เขาจะวางคางไว้บนศีรษะของคนตัวขาวที่มองเขาผ่านกระจกด้านหน้าตาใส
“กลัวโดนตีเหรอไงครับ”
“บินกลัวแด๊ดโดนตีมากกว่าฮะ”
บ๊อบบี้หัวเราะออกมาก่อนที่เขาจะใช้เท้าทั้งสองข้างช้อนปลายเท้าเล็กกว่าให้อยู่บนหลังเท้าตนเอง ชายหนุ่มใช้เวลามองมันอยู่สักพักก่อนที่เสียงทุ้มติดจะแหบเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบา
“เดินไปพร้อมกันกับแด๊ดนะครับ”
“....”
“ถ้าทางเดินมันเป็นกรวดหรือเศษแก้ว แด๊ดจะยอมเจ็บเพื่อบินเอง”พูดจบก็บรรจงจูบลงที่ข้างใบหูเด็กน้อยเเล้วมองตากลมของอีกฝ่ายที่มองมาผ่านกระจกตรงหน้าก่อนที่บ๊อบบี้จะต้องยิ้มออกมาเมื่อบินยิ้มหวานให้เเล้วพยักหน้าเบาๆตอบกลับมา
“ครับแด๊ด”
#
บินไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน เท่าที่จำได้คิอการนั่งพิงไหล่แด๊ดดี้สบายๆพอรู้ตัวอีกทีเขาก็งัวเงียขึ้นมาบนเตียงนอนกว้างโดยที่ไร้เงาของผู้ชายที่ทำให้เขาใจเต้นก่อนหน้านี้
เด็กน้อยเดินออกมาจากห้องนอนของแด๊ดดี้ก่อนจะเลิกคิ้วเเล้วเอียงคอมองข้อความตัวไม่บรรจงที่เขียนไว้ที่โพสอิสซึ่งถูกติดไว้บนประตู้ว่า
‘แด๊ดออกไปซื้อของกินกับป้าเเม่บ้านนะครับ เดี๋ยวรีบกลับนะ’
บินอมยิ้มออกมาเมื่อเขามองเห็นรูปหัวใจที่ถูกวาดเอาไว้ยังมุมกระดาษ
เด็กน้อยพับเก็บโพสอิสนั้นอย่างเรียนร้อยแล้วใส่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกมาจากห้องเเล้วลงมายังชั้นล่างเพื่อจะหาน้ำกินเพราะรู้สึกกระหาย
เเต่เเล้วขาเรียวกลับต้องสะดุดเมื่อเขามองเห็นคนตัวเล็กบางคนกำลังนั่งที่พื้นฟุบหน้าหลับลงกับโต๊ะอาหาร
ซึึ่งบินจำใบหน้าน่ารักที่กำลังหลับตาพริ้มนั้นได้เป็นอย่างดี
“บ๊อบบี้..”
เสียงละเมอเบาๆนั้นเรียกความสนใจให้กับคนตัวบางได้เป็นอย่างดี
เขาจึงเดินเข้าไปหาเเล้วเขย่าไหล่อีกฝ่ายเบาๆ
“จีน
จีนครับ”
คนถูกปลุกสะดุ้งตื่นตามด้วยการทำหน้าตางัวเงีย
เเต่พอเจอใบหน้าของคนที่กำลังยืนมองตัวเองอยู่ก็ลุกพรวดนั่งหลังตรงด้วยควาามตกใจ
“มานานหรือยัง”
บินยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงยังเก้าอี้ตัวตรงข้ามแล้วเท้าคางมองจีนที่เริ่มขมวดคิ้วเมื่อถูกมองเช่นนั้น
“มองอะไร”
“คุณดูชอบแด๊ดมากเลยนะครับ”
“....”
“ชอบมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“แล้วนายยุ่งอะไรด้วย”
จีนพูดจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะเดินหนี
เเต่ว่าบินกลับจับข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้ทำให้คนตัวเล็กกว่าต้องหันกลับมามอง
บินลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายตามด้วยการยิ้มมุมปาก
“แล้วคิดว่าแด๊ดชอบจีนมากไหมครับ”
“....”
“มากเท่าผมหรือเปล่าล่ะ”
จีนเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่กำลังส่งยิ้มให้เขา
บินก้มลงไปที่ข้างใบหูคนตัวเล็กกว่าตามด้วยการกระซิบเบาๆเเต่ว่ามันกลับทำให้คนที่ได้ยินนั้นน้ำตาคลอทันที
“ไม่มั้ง”
พูดเท่านั้นก่อนที่จะเดินเลี่ยงออกมาทันที
บินเดินออกมาด้านนอกของบ้านที่ยังคงมีฝนตกปรอยๆออกมาก่อนจะยกมือขึ้นเกาที่ปากตัวเองเเล้วหันกลับไปมองเด็กที่ตัวเองเพิ่งพูดทำร้ายจิตใจด้วยความรู้สึกผิด
แต่ว่าจะให้ทำยังไงได้ในเมื่อบินไม่สามารถทำใจเรื่องการที่แด๊ดจะชอบเด็กผู้ชายคนอื่นอีกคน
เขารู้ตัวเเล้วว่าตนเองรับไม่ได้จริงๆ…
มันยากที่จะทำใจจริงๆนะ
บินยืนเหม่อยู่สักพักก่อนที่เขาจะหันไปมองเสียงรถยนต์ที่ขับมาจอดยังโรงรถ
คนน่ารักยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะวิ่งไปหาผู้ชายที่กำลังเข้าไปช่วยคุณยายเเม่บ้านซึ่งเป็นคุณยายของจีนถือของ
แต่ว่าเด็กน้อยเองก็ไม่อยากให้แด๊ดต้องถือเองจึงแทรกตัวเข้าไปยืนขวาง
“ให้บินช่วยนะ”
“ไม่เป็นไรลูก
ป้าถือได้”
เด็กน้อยย่นหน้าพร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างดื้อรั้นเเล้วตามด้วยการดึงของสดในมืออีกฝ่ายมาถือเอาไว้
ส่วนผู้ชายตัวสูงที่ยืนมองอยู่ก็ได้เเต่ยิ้มเอ็นดู
เขาเดินเข้ามาดึงของในมือบินออกไปถือเองก่อนจะเดินลิ่วเข้าไปบ้านไปโดยที่ไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ
คนตัวขาวมองตามแผ่นหลังอีกฝ่ายไปตามด้วยการยิ้มน่ารักออกมาอย่างลืมตัวว่ากำลังมีหญิงชรามองรอยยิ้มนั้นอย่างเอ็นดู
“เข้าไปในบ้านกันไหมคะ”
“ครับ
เข้าบ้านกันเถอะ”บินยิ้มกว้างก่อนจะเดินประคองคนชราเข้ามาในบ้าน
เเล้วเขาก็ต้องยืนนิ่งนิดหน่อยเมื่อตอนนี้จีนกำลังเดินเข้ามาช่วยถือของจากมือแด๊ดดี้อีกที
“จีนน่ารักจังครับคุณยาย”
“คุณหนุรู้จักหลานยายด้วยเหรอคะ”
“รู้จักฮะ
ความจริงเราเพิ่งคุนกันตอนวันแรกที่มาน่ะ”
บินประคองอีกฝ่ายให้นั่งลงบนโซฟาก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวซึ่งเวลานี้แด๊ดดี้ของเขากำลังเอาของต่างๆออกจากถุงพลาสติกโดยที่จีนกำลังยืนมองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“คุณบ๊อบบี้จะทำอาหารเองเหรอ
จีนช่วยได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก
เราไปนั่งเถอะฉันทำคนเดียวคล่องมือกว่า”บินเม้มปากตัวเองเพื่อกลั้นยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดจากคนตัวสูง
เเต่พอจีนหันกลับมามองด้วยสายตาไม่พอใจคนตัวข้าวก็กระพริบตาปริบจ้องกลับเเล้วอมยิ้มให้
บินเดินเข้าไปยืนที่ด้านข้างของคนตัวสูงโดยใช้แขนข้างหนึ่งเท้าเค้าท์เตอร์เอาไว้เเล้วมองเสี้ยวหน้าของบ๊อบบี้ซึ่งกำลังละจากการหยิบเนื้อไก่ออกมาเเล้วมองหน้าเขา
“มองทำไมครับ
หืม”
“แด๊ดฮะ”
“อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรครับ”
บินยิ้มกว้างออกมาก่อนที่เด็กน้อยจะเขย่งปลายเท้าให้สูงขึ้นเเล้วเป่าลมใสหูแด๊ดดี้ของตัวเองตามด้วยการหัวเราะคิกคักเมื่ออีกฝ่ายย่นคอหนี
เเด็กขี้แกล้งกลับมายืนในท่าปกติแล้วจ้องใบหน้าหล่อของแด๊ดดี้เเล้วเลยไปมองจีนที่ยืนอยู่อีกฝั่ง
“อยากได้แด๊ดดี้ฮะ”
มื้ออาหารท่ามกลางเสียงหัวเราะของเด็กผู้ชายหน้าตาดีเเละผู้ชายคนเรกที่เขาตกหลุมรักมันไม่ใช่เรื่องที่น่ามองมากนักสำหรับ ‘จีน’ เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักอายุ 17 ปีซึ่งเป็นเพียงหลานชายคนเดียวของเเม่บ้าน
จีนถูกเรียกให้ร่วมโต๊ะกับพวกเขาทั้งสองคนโดยที่รู้สึกว่าระหว่างตัวเองเเละคนทั้งสองนั้นมีกำแพงกั้นอยู่ซึ่งเเน่นอนว่าเจ้าของใบหน้าน่ารักคือคนนอกอย่างสมบูรณ์แบบ
จีนแอบเห็นบินมองมาทางตัวเองเเล้วยิ้มให้ก็หน้างอ นึกอยากจะตะโกนใส่ว่าคนนิสัยไม่ดีเเต่ว่าอยู่ต่อหน้าคุณบ๊อบี้การกระทำแบบนั้นก็ลืมไปได้เลยเพราะต้องโดนคุณเขาดุเเน่
“จีนครับ เหม่ออะไร”เสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเขาทำให้จีนสะดุ้งนิดๆเเล้วมองตาม เห็นดวงตาใสๆของเด็กผู้ชายที่ชื่อบินนั้นมองมา เด็กน้อยยิ้มบางให้อีกฝ่ายเเล้วส่ายหน้าไปมาตอบตามด้วยการมองสบตากับคุณยายที่นั่งทานอาหารอยู่ตรงข้าม
“นั่นสิจีน ฉันเห็นนายเหม่ออยู่บ่อยๆนะ”บินนิ่งรอฟังคำตอบเด็กผู้ชายหน้าใสที่มองยายตัวเองราวกับว่าต้องการความช่วยเหลือหลังจากคุณบ๊อบบี้ถามเช่นนั้น เเต่เเล้วคนตัวเล็กกลับวางช้อนทั้งสองข้องตามด้วยการยกน้ำขึ้นดื่มก่อนจะมองไปยังผู้ชายที่เคยนอนกับเขาหนึ่งครั้งเมื่ิอช่วยปลายปีที่เเล้วจากการที่อีกฝ่ายเมา
ใช่ บ๊อบบี้พลาดมีอะไรกับจีนก็เพราะความไม่มีสติจากน้ำเมานั้นเป็นเหตุ
“คือผม..”
จีนรู้ดีว่าต่อให้ทำดีขนาดไหนผู้ชายคนที่กำลังส่งสายตามองมาด้วยเครื่องหมายคำถามก็คงจะเปลี่ยนความรู้สึกมามองเขาไม่ได้...
“ผม...”
เขารู้ดีว่าถึงอย่างไรชัยชนะที่ได้มาโดยไม่ต้องพยายามก็คือเด็กผู้ชายตัวขาวที่กำลังมองมาทางเขาด้วยท่าทางลุ้นๆว่าจีนจะพูดอะไรต่อ...
“ผมอยากกลับไปกรุงเทพกับคุณบ๊อบบี้น่ะครับ ผมอยากไปเรียนหนังสือที่นั่น”
เเละนี่อาจเป็นวิธีเดียวที่เขาจะได้อยู่กับผู้ชายที่ตัวเองรักมากกว่าการรอคอยอย่างไม่รู้เวลาดังเช่นการทำเหมือนในทุกวันนี้
เเละหลังจากที่เขาพุเช่นนั้นไปทุกคนก็นิ่งเงียบกันหมดไม่เว้นเต่คุณยายของเขาที่ลืมแม้กระทั่งการห้ามปรามอีกฝ่ายเพราะเป็นการกระทำที่ไม่ควร
“เอ่อ..บินว่าไงครับ”บ๊อบบี้ไม่ได้ตอบคำถามนั้น เเต่ว่าเขากลับหันไปมองคนตรงข้ามที่ตอนนี้ขมวดคิ้วมองจานข้าวอย่างใช้ความคิด บินนิ่งไปเช่นนั้นอยู่ราวนาทีก่อนที่ใบหน้าเล็กจะเงยขึ้นมามองสบตากับดวงตากลมของจีนที่่จ้องกลับอยู่เช่นกัน
“เอาสิฮะ บินเองก็อยากมีเพื่อนนะ”
จีนมองใบหน้าอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาจากใจจริงๆ ซึ่งบินก็็ยิ้มตอบบางๆตามด้วยการก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อโดยที่ในใจนั้นแอบนึกหวั่นกลัวว่าคนน่ารักนี้จะมาเเย่งแด๊ดดี้ของเขาไป แต่อีกใจก็ไม่อยากงี่เง่าเพราะการเรียนนี่เป็นเรื่องอนาคตของอีกฝ่ายเลยนะ
สับสนตัวเองสุดๆไปเลย
เสียงเปิดประตูดังขึ้นยามที่มีคนเปิดเข้ามาภายในห้องนอนเเล้วปิดเบาๆเพื่อไม่ให้รบกวนใครบางคนที่กำลังนั่งมองหน้าจอแม็คบุ๊คพร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บนเตียง
เมื่อครึ่งชั่วโมงที่เเล้วหลังจากที่พวกเขาทานข้าวกันเสร็จแด๊ดดี้ก็รับมือถือจากใครบางคนก่อนจะขึ้นมาบนห้องเเล้วก็ไม่ได้กลับลงไปด้านล่างอีกเลย บินที่เพิ่งช่วยคุณยายเพ็ญเเละจีนล้างจานเสร็จก็เดินขึ้นมายังชั้นสองเนืองจากรู้สึกเป็นห่วงแด๊ดดี้
คนตัวบางเดินย่องเข้าไปด้านข้างโต๊ะหนังสือที่อีกฝ่ายกำลังนั่งอยู่ เด็กน้อยนั่งคุกเข่าข้างเก้าอี้อีกฝ่ายพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างวางบนโตีะแล้วเเนบแก้มลงไปมองใบหน้าจริงจังของใครอีกคนที่เหล่ตามองเขาตามด้วยการยิ้มมุมปากให้นิดหน่อย
“มาทำตาแป๋วอะไรแถวนี้ครับ แด๊ดทำงานนะ”
“สู้ๆนะฮะ”
บินไม่ได้ตอบคำถามอีกฝ่าย เขาทำเพียงพูดจาส่งกำลังใจขั้นพื้นฐานให้แด๊ดดี้ที่หลุดขำออกมาโดยที่บินเองก็ไม่เข้าใจกับรอยยิ้มนั้น
“จะเฝ้าแด๊ดเหรอครับ”
“หืม อะไรฮะ”
“อืม..”
บ๊อบบี้ลากเสียงยาวก่อนจะแสร้งทำเป็นเหลือบตามองเพดานทำสีหน้าครุ่นคิดเเล้วจบลงด้วยการก้มลงมาหอมแก้มนิ่มของคนเด็กกว่าอย่างไวเเล้วหันไปสนใจงานของตัวเองต่อ
“กลัวแด๊ดไปยุ่งกับจีนเหรอครับ”
“รู้ทันเหรอฮะ”
บินเม้มปากก่อนท่จะทิ้งตัวนั่งลงขัดสมาธิยังพื้นเนื่องจากรู้สึกปวดบริเวณหัวเข่า เด็กน้อยเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเเล้วเอาคางวางบนหน้าขาบีอบบี้ตามด้วยการจ้องผู้ใหญ่ตรงหน้าตาแป๋ว
“รู้สิ รู้เเล้วด้วยว่าเราน่ะมันเด็กขี้หึง”
“บินนิสัยไม่ดีเลยฮะ”เด็กน้อยทำหน้ามุ่ยก่อนจะยกทั้งสองเเขนขึ้นมากอดขาบีอบบี้เอาไว้เเน่น เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยๆของอีกฝ่ายเบาๆ
“ใช่ครับ นิสัยไม่ดีสุดๆไปเลย”
เด็กน้อยละมือเเละใบหน้าของตัวเองออกมา ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนอนชันเข่าทั้งสองข้างแผ่หลาราวกับคนหมดแรง
“แล้วแด๊ดชอบคนนิสัยไม่ดีแบบบินไหมฮะ”พูดเสียงแผ่วเบาตามด้วยการยกเท้าขึ้นเขี่ยหน้าขาที่สวมกางเกงพอดีเข่า บ๊อบบี้ถอนหายใจออกมาก่อนที่เขาจะวางงานทั้งหมดตามด้วยการลุกขึ้นจากเก้าอี้เเล้วมาขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้ บินเองก็ยกมือขึ้นมาคล้องคอคนตัวใหญ่อัตโนมัติเเล้วโน้มใบหน้าแด๊ดดี้ลงมาจูบอย่างแผ่วเบา
“แต่เด็กนิสัยไม่ดีคนนี้ชอบแด๊ดดี้มากๆเลย”
เด็กมันอันตราย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น