CHAPTER 8 100%
Chapter 8
CUT!
อ่านฉากตัดที่
TWITTER : @kamonwan271
Fanpage:เฮียสอง271
“อื้อ...”บินลืมตาขึ้นมามองคนเป็นแด๊ดดี้ทันทีที่อีกฝ่ายควงสะโพกใส่อย่างเย้าแหย่ เด็กน้อยรอจังหวะที่อีกฝ่ายถอนตัวออกไปก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่งมองแด๊ดดี้ที่ทิ้งตัวลงนอนข้างตนเอง ไม่วายดึงแขนเล็กจนบินนอนซบไปที่อกอีกฝ่าย บ๊อบบี้กอดหมับด้วยความว่องไวจนบินไม่สามารถลุกหนีขึ้นได้
“ว่าไง เสียใจหรือเปล่า”คนตัวเล็กในอ้อมกอดช้อนดวงตามองแด๊ดดี้คนใจดีตามด้วยการส่ายใบหน้าเล็กไปมาเบาๆ และนั่นมันก็เรียกรอยยิ้มและความดีใจของผู้ชายวัยสามสิบเอ็ดปีได้ไม่น้อยเลย
“แล้วเราจะเอาไงกันต่อดี”
“....”
“อย่าเอาเเต่เงียบสิ พูดอะไรบ้าง”
“เรามีอะไรกันแล้ว..”
“อ่าฮะ”
“แล้วพรุ่งนี้เราจะเป็นอะไรกันล่ะฮะ”
คนฟังนิ่งไปเมื่อเจอคำถามของเด็กผู้ชายตรงหน้าซึ่งเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าถ้าหากมีอะไรกับลูกชายความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร
บ๊อบบี้ผู้ชายที่รอบคอบเรื่องการดำเนินชีวิตมาโดยตลอดทำไมถึงพลาดเรื่องนี้ไปได้นะ
“แล้วบินอยากเป็นอะไรล่ะครับ แด๊ดเป็นให้ได้ทุกอย่างเลย”
ประตูบานใหญ่ค่อยๆถูกเปิดและปิดลงโดยฝีมือคนตัวขาวที่เพิ่งกลับมาจากบ้านหลังเก่าที่เขารู้สึกชอบมันตั้งเเต่ครั้งเเรก เด็กน้อยยืนนิ่งค้างก่อนที่จะยืนทิ้งตัวหลังพิงประตูแล้วค่อยๆทรุดนั่งลงพื้นอย่างหมดแรง ในที่สุดเขาก็เป็นไปตามที่คนอื่นพูด…
ใช้ตัวเข้าแลกเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต่างจากเด็กขายตัวเลย
บินกัดริมฝีปากแบบที่ชอบทำก่อนที่จะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆโดยไม่มีเสียงสะอื่น เขาไม่ได้เสียใจที่มีอะไรกับแด๊ดดี้ เพียงเเต่เด็น้อยเสียใจที่ตัวเองไม่หักห้ามใจและยอมทำเรื่องผิดกับผู้มีพระคุณเช่นนั้น
ถ้าบินไม่ช่วยตัวเองแด๊ดก็คงไม่พลาดมีอะไรกับเขา…
“แล้วบินอยากเป็นอะไรล่ะครับ แด๊ดเป็นให้ได้ทุกอย่างเลย”
เด็กน้อยไม่ได้ตอบคำถามนั้น เขาทำเพียงทิ้งตัวซบลงบนอกแกร่งเเล้วกอดร่างกายอุ่นเอาไว้
บินไม่ใช่คนโลกสวยที่คิดว่าแด๊ดจะพอใจถ้าหากเขาตอบไปว่าเป็นคนรัก เพราะว่าแด๊ดไม่ได้รักเขา และตัวบินเองก็เคารพชายหนุ่มและเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เขาสมควรจะเคารพและตอบแทนพระคุณด้วยซ้ำ
หรือนี่จะเป็นการตอบแทนพระคุณที่โชคชะตาำหนอดมาให้เขาเป็นกันนะ
“บินคิดถึงพ่อแม่จังเลยฮะ”
#
‘ก๊อกๆๆ’
เสียงกระทบประตูทำให้บินที่นอนซมอยู่ครางอือในลำคอ ดวงตากลมลืมขึ้นแล้วมองไปยังที่มาของเสียง
ที่ยังคงดังขึ้นอีกครั้ง เด็กน้อยฝืนลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องเบ้หน้าออกมาอีกครั้งเมื่อพบว่าเนื้อตัวเขาปวดไปหมด ยิ่งเมื่อบินลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปเปิดประตูก็รู้สึกได้ว่าขามันสั่นไปหมด
‘ตึง!’
เมื่อฝืนเดินตัวเขาเองก็ล้มลงไปที่พื้นอย่างเเรง และนั่นก็ทำให้คนที่อยู่หน้าห้องเปิดเข้ามาโดยไม่สนอะไรอีก และยิ่งเห็นบินกำลังพยุงตัวขึ้นนั่งด้วยสีหน้าเจ็บปวดบ๊อบบี้ก็พุ่งตัวเข้าไปหาคนตัวขาวทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า!”
“แด๊ดจะไปทำงานแล้วเหรอฮะ”
บินเลี่ยงจะจะตอบคำถามว่าเขาเจ็บกับอุบัติเหตุเมื่อสักครู่เเค่ไหน เนื่องจากร่างกายเขาบาดเจ็บเพราะอย่างอื่นเสียมากกว่า
“เป็นไข้หรือเปล่า ไปโรงพยาบาลไหม”
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกฮะ แด๊ดยังไม่ไปทำงานเหรอฮะ”บ๊อบบี้ทาบหลังมือไปที่ซอกคอขาวและจบลงที่หน้าผาก เขาจิ๊ปากในลำคอตามด้วยคำสบถบางอย่างที่เด็กน้อยฟังไม่ถนัด กำลังจะเอ่ยถามแต่ว่ากลับถูกอุ้มขึ้นแล้ววางลงบนเตียงเบาๆ
“แด๊ดฮะ เก้าโมงแล้วนะฮะ”
“ช่างหัวเก้าโมงมันสิ!”การขึ้นเสียงอย่างลืมตัวทำให้บินนิ่งไป เขามองคนตัวสูงที่เดินหายออกไปจากห้องนอนสักพักแล้วกลับมาพร้อมกับกะละมังและผ้าสีขาวผืนเล็ก
“ไม่สบายทำไมไม่บอก”
ถามเสียงแข็งก่อนจะนั่งลงบนเตียง ไม่วายลากเก้าอี้ที่โต๊ะหนังสือบินมาข้างเตียงแล้ววางกะละมังบนนั้น
“คือบินไม่อยากรบกวนแด๊ด”
เด็กน้อยนั่งนิ่งให้คนเป็นผู้ใหญ่แกะกระดุมเสื้อเขาแล้วถอดออก บินไม่ได้งอแงและพ่นคำถามโง่ๆออกไปว่าจะทำอะไรในเมื่อมองแวบแรกก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้จะเช็ดตัวให้กับเขา และในหัวก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาที่ว่าเวลาคนเรามีอะไรกันต้องไม่สบายงั้นเหรอ แล้วแด๊ดดี้ล่ะจะเป็นอะไรไหม
คิดได้ดังนั้นก็มองใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายที่เวลานี้ขมวดคิ้วนิดๆพร้อมกับคว้าผ้าเช็ดตัวที่ชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดที่ใบหน้าให้เขา มือเล็กค่อยๆยกขึ้นพร้อมกับทาบแก้มทั้งสองข้างของแด๊ดดี้ที่ชะงักไปกับการกระทำดังกล่าว เขามองลูกชายที่เอียงคอทำท่าครุ่นคิดสักพักก่อนจะยิ้มบางออกมา
“แด๊ดตัวไม่ร้อน ดีจังเลยฮะ”
บินได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากอีกฝ่ายก่อนที่มือทั้งสองข้างของเขาจะถูกจับเอาไว้แล้วมากุมบนตักบินแทน
“ห่วงตัวเองซะบ้าง”
เสียงทุ้มอ่อนลงกว่าในตอนแรกที่ดุเขามาก บินจ้องดวงตาจริงจังของอีกฝ่ายโดยที่เด็กน้อยไม่รู้สักนิดว่าบ๊อบบี้ต้องการจะสื่ออะไร
เขามันโง่เกินไปที่คิดได้แค่ว่าสายตาคู่นั้นกำลังเป็นห่วงเขามาก…
“แด๊ดรู้นะครับว่าบินไม่สบายใจเรื่องเมื่อวาน”
“....”
“ตากลมๆเนี่ย...”พูดพร้อมกับยกมือข้างหนึ่งที่กุมมืออีกฝ่ายอยู่ขึ้นมาแนบแก้มใสตามด้วยการใช้นิ้วหัวแม่มือไล้ที่ใต้ตาเด็กน้อยแผ่วเบา
“มันฟ้องแด๊ดหมดทุกอย่างเลย”
“จริงเหรอ”
บ๊อบบี้พยักหน้าให้เด็กผู้ชายที่กำลังมองเขาอย่างตั้งใจ
“ห่วงแด๊ดว่าจะไม่สบาย แล้วก็ห่วงเรื่องที่โรงเรียนด้วยใช่ไหม”
บินนิ่งไปก่อนที่เขาจะพยักหน้ายอมรับในที่สุด และดูเหมือนการที่เด็กน้อยยอมเปิดใจว่าคิดอะไรอยู่มันเป็นการจุดรอยยิ้มกว้างของแด๊ดดี้เป็นอย่างดี
“บินต้องเข้าใจว่าไม่มีใครสามารถห้ามความคิดคนอื่นได้ ต่อให้พระเจ้าก็ห้ามความคิดแง่ลบของคนไม่ได้”
“....”
“สิ่งที่เราทำได้คือทำใจยอมรับในความเป็นคนของพวกเขาหากว่าการกระทำเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน”
“แต่บินทำ...”
พูดเสียงอ่อยพร้อมกับก้มหน้าลง เด็กน้อบรู้สึกถึงแรงบีบที่มือเบาๆก่อนที่ตัวเขาจะถูกดึงไปกอดจนแทบจมอกของบ๊อบบี้
“อย่าไปฟังคำพูดของคนอื่นเลย การที่บินเป็นของแด๊ดมันทำให้บ้านใครไฟไหม้หรือเปล่า มันทำให้ใครตกส้วมตายไหม ก็ไม่ ทุกคนยังคงดำเนินชีวิตของเขาไปตามปกติโดยที่ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนถูกพูดถึงอย่างเราต้องมานั่งจมปรักกับคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคนั้นแค่ไหน พวกเขาอาจได้กำไรตรงที่ความสนุกปากกับการพ่นถ้อยคำแย่ๆออกมา แต่สถานการณ์มันก็ทำให้เรารู้ใครถูกสั่งสอนอบรมมาดีแค่ไหน ควรทำความรู้จักต่อไปหรือไม่ร่วมค้าสมาคมดี เข้าใจที่แด๊ดพูดไหมครับ”
“ฮึก...”
บ๊อบบี้กระชับอ้อมกอดให้แน่นเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนในอ้อมกอดเขาสะอื้นออกมาพร้อมกับพยักหน้าตอบรับราวกับกำลังจะปล่อยความอึดอัดที่มีอยู่ภายใจ มือเล็กนั้นกำชายเสื้อสูทของเขาแน่นพร้อมกับซบใบหน้าลงบนอกจนบ๊อบบี้มองไม่เห็นใบหน้าเด็กน้อยที่ยอมเปิดใจความรู้สึกและแสดงด้านอ่อนแอที่เก็บมาโดยตลอดกับเขาเป็นครั้งแรก
“เปิดเรียนวันจันทร์นี้เป็นต้นไปก็จะไม่มีใครว่าอะไรบินอีกแล้ว เชื่อแด๊ดนะ”
เอาเงินฟาดหัวไอ้เพื่อนชั่วลูกเจ้าของโรงเรียนไปซะทำเขาเหงือกแห้ง ถ้าทุกอย่างไม่ดีขึ้นแม่งจะขับสิบล้อชนตึกใหม่ที่สร้างด้วยเงินเขาให้พ่อมันหน้าสัั่นเลยคอยดู
talk
บินตอบ ขนาดนี้ไม่เป็นเมียก็แม่แล้วฮะ
talk
ตอบคุณ Tea14538 ภาพเราเอามาจากทวิตเตอร์ ไม่รู้ที่มาเช่นกันค้าาา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น