#ทักดบบ
#ทักดบบ
By:เฮียสอง
@kamonwan271
‘น้องเหมียวของพี่’
----------------------------------------------------------------------------------
ตึก ตึก ตึก
ขายาวที่ค่อยเดินอย่างไม่เร่งรีบในจังหวะเเรกเปลี่ยนเป็นออกวิ่งเมื่อเขามองเห็นแผ่นหลังบางของใครบางคนซึ่งกำลังเดินนำเข้าโรงเรียน
นักเรียนคนอื่นมองมายังบ๊อบบี้ด้วยความสนใจ
เเต่ดูเหมือนว่าเด็กตัวบางยังไม่ทันสังเกตว่าเขามาเดินข้างๆ
จึงทำเพียงเดินจ้องมือถือต่อไป
“อะ แฮ่ม..”แสร้งกระแอมไอเพื่อให้คนตัวเล็กรู้ตัว
ซึ่งก็สมใจเพราะน้องแมวของเขาสะดุ้งแล้วหันมามองอย่างตื่นๆ
บ๊อบบี้เลิกคิ้วด้วยใบหน้ากวนประสาทให้รุ่นน้องที่มักจะเขินจนแก้มทั้งสองข้างแดงก่ำเสมอเวลาที่เห็นหน้าเขา
“วันนี้จะเดินไปส่งนะ”
คนฟังกระพริบตาปริบ อาจเป็นเพราะแมสที่ยังคงปิดปากคนตัวเล็กอยู่จึงทำให้บ๊อบบี้ไม่เห็นว่ารุ่นน้องกำลังเม้มปากเเน่นเพื่อกลั้นยิ้มไม่ให้รุ่นพี่รู้
ความบกพร่องทางด้านร่างกายที่ไม่สามารถตอบโต้กลับได้ทำให้มือเล็กพิมพ์บางอย่างลงในมือถือแล้วชูให้คนเป็นพี่ดู
“ตึกเรียนคนละฝั่งเลยครับ ไม่เป็นไรหรอก
ผมเกรงใจพี่บ๊อบบี้”
หลังจากที่อ่านคนเป็นพี่ก็ยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจคนตัวเล็กกว่าที่พิมพ์ยิกๆอีกครั้ง
“ผมเกรงใจจริงๆนะครับ”
ฮันบินเอานิ้วเล็กที่โผล่พ้นแขนเสื้อจิ้มยิกๆบนหน้าจออีกครั้งเพื่อเรียกให้อีกคนสนใจบนหน้าจอ
บ๊อบบี้ยิ้มกว้างให้ก่อนจะยื่นไปจับมือบางเอาไว้เเล้วพาเดินไปยังฝั่งตึกของเด็กเกรด11 คนเป็นน้องเดินก้มหน้าเพราะไม่อยากสบตาเด็กคนอื่นที่มองมาอย่างตั้งคำถามว่าทำไมบ๊อบบี้เด็กที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในโรงเรียนถึงมาเดินจับมือกับเขา
เด็กพูดไม่ได้หนึ่งเดียวของโรงเรียนที่มักเป็นอากาศธาตุสำหรับคนอื่นเสมอ…
ฮันบินมองมือหนาที่กระชับมือเขาเอาไว้เเน่น
ก่อนจะเงยใบหน้าเล็กมามองผู้ชายตัวสูงที่เดินนำหน้าเขาอยู่เวลานี้
ฮันบินดีใจที่อย่างน้อยเขาก็มีตัวตนในสายตาบ๊อบบี้
ผู้ชายที่แอบชอบมาสามปีจนกระทั่งเขารวบรวมความกล้าทักไปในวันนั้น
ฮันบินไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณอีกฝ่ายอย่างไรดีที่ไม่มีท่าทีรังเกียจตัวเองเลยแม้เเต่น้อย
ฮันบินชอบบ๊อบบี้มาก
เขาไม่หวังว่าจะได้คบกับรุ่นพี่เป็นแฟน
เเต่เพียงเเค่บ๊อบบี้เอ็นดูเขาเหมือนทุกวันนี้ก็เกินพอแล้ว
“ถึงแล้ว วันนี้มีเรียนพละนี่
เดี๋ยวจะไปป่วนนะจ๊ะน้องเหมียว”
ยื่นมือมาบีบแก้มคนตัวเล็กที่ก้มหน้างุดด้วยความเขิน
ฮันบินไม่กล้าแม้เเต่จะปัดมือคนพี่ออกด้วยซ้ำ
จนกระทั่งบ๊อบบี้ปล่อยมือออกจากแก้มขาวร่างบางก็ก้มหน้าวิ่งเข้าไปในห้องเรียนทันที
คนตัวสูงมองตามแล้วยิ้มออกมาคนเดียว
ยกมือข้างที่ทำร้ายอีกฝ่ายเมื่อครู่ขึ้นมาจรดที่ปลายจมูก
มันดูโรคจิตไหมนะถ้าเขาจะบอกว่าแป้งน้องหอมติดมือเขามาเลยด้วยซ้ำ
แล้วก็เป็นอย่างที่บ๊อบบี้บอกไปว่าเขาจะป่วนฮันบิน
เด็กหนุ่มคิดว่าตัวเองอาจโรคจิตตามที่จุนเน่เพื่อนสนิทของตัวเองพูดด้วยซ้ำเพราะว่าเขามักอารมณ์ดีเสมอเวลาที่น้องทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นหน้าเขา
‘น้องเหมียวของพี่’
นั่นคือสิ่งที่บ๊อบบี้ตะโกนออกไปพร้อมกับโบกมือให้เด็กตัวบางซึ่งหลบหลังเพื่อนตัวอ้วนด้วยความอายทันที
ตอนพักกลางวันเขาก็แกล้งจ้องรุ่นน้องที่นั่งทานข้าวอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
แน่นอนว่าฮันบินไม่เป็นอันกินเลยด้วยซ้ำ
คนน้องกระชับผ้าปิดปากทุกครั้งที่บ๊อบบี้จ้องมาแล้วพูดแบบไม่มีเสียงยิ้มๆว่า
“เปิดแมสออกมากินข้าวเร็ว”
ฮันบินส่ายหน้ารัวเพื่อปฏิเสธ
คว้าหนังสือของชินดงที่วางใกล้มือมากางเพื่อปิดหน้าตัวเองเอาไว้
คนเป็นเพื่อนได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับความขี้อายของฮันบิน
แต่แล้วเด็กขี้เขินก็ต้องหน้าเหวอเมื่อหนังสือในมือถูกกระชากออกให้พ้นหน้า
ฮันบินเอนหลังนิดหน่อยเมื่อรุ่นพี่ขี้แกล้งยื่นหน้าลงมาใกล้เขาพร้อมกับยิ้มตาปิดส่งมาให้
“เขินจนหน้าแดงมันน่าฟัดรู้ไหมครับ?”
“....”
“ยังมากระพริบตาใสอีก
พี่หอมแก้มขึ้นมาจะเอาหน้ามุดจานป่ะ”
ฮันบินพยักหน้า
ก่อนจะหันเอาหน้าไปซบไหล่ชินดงเพื่อเลี่ยงการสบตากับคนพี่
บ๊อบบี้หัวเราะร่วนเมื่อมองเห็นลูกแมวน้อยของเขาเขินอีกแล้ว
ก่อนจะถูกจุนฮเวที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลังลากคอไป
ฮันบินแอบได้ยินเสียงรุ่นพี่หน้านิ่งคนนั้นสบถว่า
‘เล่นไรกันปัญญอ่อน’ อีกด้วย
พอเลิกเรียนฮันบินที่วิ่งพรวดออกมาจากห้องเรียนต้องชะงักเท้าเมื่อมองเห็นรุ่นพี่ตัวสูงยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงรออยู่
บ๊อบบี้ยิ้มละมุนส่งมาให้
กระชับสายกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่นิดหน่อยพร้อมกับเดินมาหาน้อง
“กลับบ้านกัน”
เสียงรองเท้าสองคู่ที่เดินข้างกันดังเป็นระยะ
น่าแปลกที่ความเงียบรอบตัวไม่ได้ทำให้เด็กทั้งสองรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย
แสงแดดสีส้มอ่อนๆยามเย็นมันทำให้พวกเขาจำต้องมองไปยังพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
จนกระทั่งคนเป็นพี่จะเป็นฝ่ายหยุดเดินแล้วหันมาประจันหน้ากับน้องเมื่อถึงบริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำในระยะสั้นๆของชุมชน
ฤดูใบไม้ผลิทำให้รอบตัวดูอบอุ่นไปหมด กลิ่นชาร้อนของร้านประจำหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่งสะพานทำให้ฮันบินอดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกเพราะเขารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเมื่อได้กลิ่นหอมของมัน
“เอ่อ..ตื่นเต้นแฮะ”
“...”
“อย่างที่บอกว่าวันนี้อยากเห็นหน้าให้ได้อ่ะ”
บ๊อบบี้มองน้องพร้อมกับเกาท้ายทอยด้วยความเขิน
หูทั้งสองข้างเริ่มแดงอย่างที่เป็นไม่บ่อยนัก
มันน่าอายนิดๆนะกับการที่เขาต้องเป็นเช่นนี้ต่อหน้าเด็กขี้อาย
ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะมานั่งเขินกับเรื่องกุ๊กกิ๊กในชีวิตประจำวัน
เเต่ว่าน้องฮันบินทำให้ความมั่นใจที่เขาเคยมีหดหายไปจนน่าหัวเราะด้วยซ้ำ
เพียงเเค่ฮันบินบอกว่าไม่ เขาก็พร้อมที่จะทำตามที่น้องบอก
อ่า...จะว่าเขาบ้าก็ได้เเต่ยอมรับเลยว่าตอนนี้น่ะเป็นเอามาจริงๆ
“พี่ขอเป็นคนเปิดเองนะ”
ฮันบินมองรุ่นพี่ที่ตัวเองแอบหลงรักมาโดยตลอดอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าหลังจากเปิดไปแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป
อย่างดีสุดที่บ๊อบบี้จะให้ได้น่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ดีต่อกัน
เพราะไม่มีใครชอบเด็กใบ้แบบเขาหรอก ใบหน้าเล็กพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงตกลง
และนั่นยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับคนพี่ได้มากทีเดียว
เด็กหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้น
แอบกลืนน้ำลายออกมาเมื่อปลายนิ้วสัมผัสแก้มนิ่มอย่างแผ่วเบา บ๊อบบี้ค่อบๆเอาสายเกี่ยวทั้งสองข้างที่เกี่ยวหูน้องอยู่ออกให้เบามือที่สุด
แล้วเขาก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเด็กตรงหน้าไม่ได้ผิดคาดจากที่คิดไว้
คนน่ารักเม้มปากเน้นเมื่อมองเห็นบ๊อบบี้ส่งยิ้มที่ฮันบินมองแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนนมร้อนในฤดูหนาว
เขารู้ตัวดีว่าใบหน้าตอนนี้แดงแค่ไหน ซึ่งฮันบินก็ยิ้มกว้างออกมาพร้อมมองใบหน้าของรุ่นพี่ซึ่งแดงก่ำไม่แพ้กัน
“เอ่อ..น่ารักนะ”
ฮันบินยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าทันทีที่เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
บ๊อบบี้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาถูไปมาเพื่อขจัดความประหม่า
ฮันบินหยิบมือถือออกมาจากระเป๋ากางเกงก่อนจะกดยุกยิกอีกครั้ง
“พระอาทิตย์สวยดีนะครับพี่บ๊อบบี้
><”
บ๊อบบี้มองตามน้องที่ชี้มือไปยังฝั่งพระอาทิตย์ที่กำลังตก
“พี่มีความเชื่อตลกๆที่คิดเองว่าการมาดูพระอาทิตย์ตกกับคนที่เรารู้สึกดีด้วยมันจะสวยที่สุด”
“....”
“มาดูกับพี่ที่นี่ทุกวันได้ไหม?”
#ทักดบบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น